รีวิวหนัง : Dhamaka (2021) คำขู่

หนังใหม่แนวทริลเลอร์ที่บีบคั้นหัวใจแบบมันส์สุด เป็นหนังแอคชั่นฟอร์มดีส่งท้ายปีที่คุณไม่ควรพลาดชมแนะนำหนัง 2021  Dhamaka (2021) คำขู่ เตรียมตัวคุณให้พร้อมเพื่อลุ้นระทึกไปกับ อรชุน ปาทัค นักข่าวผู้ตกอับแต่แล้วก็ส้มหล่นเมื่อมีผู้ก่อการร้ายระเบิดสะพาน Sea Link โทรหาเขาเพื่อรายงานออกอากาศสด เขาจึงถือโอกาศนี้หวังจะไต่เต้าขึ้นไปเป็นผู้ประกาศข่าวเบอร์หนึ่งอีกครั้ง โดยหารู้ไม่ว่าที่หูของเขา มีระเบิดติดตั้งพร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ อรชุนจึงต้องรายงานข่าวที่จะต้องแลกกับจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีของเขา

สำหรับภาพยนต์อินเดียเรื่องนี้ ได้ดัดแปลงมาจากภาพยนต์เกาหลีเรื่อง ชนวนล่ามหาประลัย The Terror Live เมื่อปี 2013 พล็อตเรื่องต่างๆ ก็จะเหมือนๆ กัน แต่จะอยู่ในบริบทของความเป็นอินเดียมากว่านั่นเอง  Dhamaka (2021) คำขู่  บอกเล่าถึงเรื่องราวของ อรชุน ปาทัค อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดังที่ชีวิตตกต่ำ โดนลดขั้นต้องมาจัดรายการวิทยุ มิหนำซ้ำภรรยาสาวสวย โสมยา ขอหย่าร้างอีก ในรายการวิทยุที่เขาจัดก็จะเปิดช่วงให้สายจากทางบ้านโทรเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อข่าวของวันนั้นๆ แต่แล้วก็มีสายหนึ่งนามว่า ราฆูบีร์ โทรเข้ามาขู่วางระเบิดสะพาน Sea Link ในมุมไบ แทนที่อรชุนจะโทรแจ้งตำรวจ แต่เขากลับเห็นโอกาสที่จะได้กลับไปเป็นผู้ประกาศข่าวรอบดึกอีกครั้งหนึ่ง จึงได้โทรสัมภาษณ์คนร้ายออกรายการสดเพื่อเพิ่มเรตติ้งให้ช่อง โดยแลกกับข้อเสนอของคนร้ายก็คือคำขอโทษจากนายกรัฐมนตรีของอินเดีย

จุดเด่นที่ต้องยกให้หนังเรื่องนี้เลยก็คือ การดำเนินเรื่องที่ลื่นไหลและโฟลวมาก โดยจะพาเราไปทำความรู้จักกับชีวิตของตัวเอกสั้นๆ ปัญหาชีวิต ทำไมเขาถึงต้องอยากรายงานข่าว จนเรื่องราวก็ค่อยๆ ระทึกและบานปลายมากขึ้นเมื่อคนร้ายต้องการคำขอโทษจากนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งตรงนี้มันไต่ระดับความลุ้นระทึกได้ดีมาก ยิ่งเหมือนเป็นสถานการณห้องปิดตายมันก็ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นเข้าไปอีก ลุ้นว่าพระเอกจะตัดสินใจอย่างไร ตำรวจจะหาตัวคนร้ายเจอก่อนไหม หรือพระเอกจะต้องทำตามคำขอของช่องทีวีที่ขัดกับ demand ของคนร้าย แม้จะดูวุ่นวาย อีรุงตุงนัง แต่มันก็บีบคั้นอารมณ์สุดๆ เหมือนกัน

สำหรับใครที่ชอบหนังทริลเลอร์บีบคั้นหัวใจแบบมันส์ๆ ล่ะก็ เรื่องนี้ตอบโจทย์มาก ด้วยการนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับสังคมผ่านการรายงานข่าวก่อการร้ายวางระเบิดที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะชวนลุ้นระทึกได้ขนาดนี้ แม้ว่าเนื้อเรื่องบางจุดอาจจะมีข้อกังขาหรือประเด็นที่นำเสนอได้ไม่ละเอียดพอ แต่ในด้านอารมณ์ร่วมและความมันส์ ขอรับประกันเลยว่าคุ้มที่จะดูแน่นอน


Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง : King Richard (2021)

รีวิวหนัง : Goodbye Christopher Robin

รีวิวหนัง : Two (2021) คนคู่